ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ความรู้ และสาระสำคัญ

คอมพิวเตอร์ คืออะไร??

           คอมพิวเตอร์  เป็น เครื่องจักร แบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วย ความจำ รูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึด สารสนเทศ ที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่าง ๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บ ข้อมูล ไว้ คำสั่งต่าง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในปี ค.ศ.1982 คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่อง

80 Plus บนพาวเวอร์ซัพพาย คืออะไร??


     คำว่า 80+ (80 Plus) นั้นเป็นการใช้เรียกประสิทธิภาพในการทำงาน (efficiency) ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีเพียงแค่ในเรื่องของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์หรืออิเลกทรอนิกส์เท่านั้น ในทางวิศวกรรมแล้วมันมีมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องจักร เครื่องยนต์ เพียงแต่ในวงการคอมพิวเตอร์นั้นเพิ่งจะมีการรณรงค์เรื่องนี้เท่านั้น
สำหรับ Power efficiency ในที่นี้สำหรับ PSU (Power Supply Unit) นั้นก่อนที่จะเจาะจงลงไป เราต้องรู้ก่อนว่า PSU มีหน้าที่ทำอะไรในคอมพิวเตอร์ ซึ่งมันก็คือ ” อุปกรณ์แปลงไฟฟ้าจากกระแสสลับ (AC) ให้เป็นกระแสตรง (DC) เมื่อทราบแล้วว่ามันคือตัวแปลงไฟหรือพูดแบบบ้านๆก็หม้อแปลงดีๆตัวหนึ่งนี่แหละ และในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงนี้เอง ที่มันจะต้องมีการสูญเสียจึงเป็นที่มาของเรื่องประสิทธิภาพหรือ efficiency


80 Plus (ธรรมดา) ก็คือ PSU ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่โหลดตลอดทั้งสามช่วงคือ 20%, 50%, 100% Load ได้ 0.8 (80% efficiency) พอดี และจะทดสอบกับ PSU ที่ใช้ไฟ AC ในช่วง 110V เท่านั้น
80 Plus Broze (ชั้นทองแดง) ก็คือ PSU ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่โหลดในช่วง 20% จากความสามารถทั้งหมดของ PSU ได้ในระดับเกินกว่า 0.81 และที่ภาระ 50% มีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.85 และที่โหลดเต็ม 100% จะต้องมีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.81 สำหรับ PSU ที่ใช้ไฟด้าน AC 220V จึงจะได้การการันตีมาในระดับนี้
80 Plus Silver (ชั้นเงิน) ก็คือ PSU ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่โหลดในช่วง 20% จากความสามารถทั้งหมดของ PSU ได้ในระดับเกินกว่า 0.85 และที่ภาระ 50% มีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.89 และที่โหลดเต็ม 100% จะต้องมีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.85 สำหรับ PSU ที่ใช้ไฟด้าน AC 220V จึงจะได้การการันตีมาในระดับนี้
80 Plus Gold (ชั้นทอง) ก็คือ PSU ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่โหลดในช่วง 20% จากความสามารถทั้งหมดของ PSU ได้ในระดับเกินกว่า 0.88 และที่ภาระ 50% มีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.92 และที่โหลดเต็ม 100% จะต้องมีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.88 สำหรับ PSU ที่ใช้ไฟด้าน AC 220V จึงจะได้การการันตีมาในระดับนี้
80 Plus Platinum (ชั้นแพลททินัม) ก็คือ PSU ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่โหลดในช่วง 20% จากความสามารถทั้งหมดของ PSU ได้ในระดับเกินกว่า 0.9 และที่ภาระ 50% มีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.94 และที่โหลดเต็ม 100% จะต้องมีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.91 สำหรับ PSU ที่ใช้ไฟด้าน AC 220V จึงจะได้การการันตีมาในระดับนี้
80 Plus Titanium (ชั้นไทเทเนี่ยม) ก็คือ PSU ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่โหลดในช่วง 20% จากความสามารถทั้งหมดของ PSU ได้ในระดับเกินกว่า 0.94 และที่ภาระ 50% มีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.96 และที่โหลดเต็ม 100% จะต้องมีประสิทธิภาพเกินกว่า 0.91 ซึ่งในระดับสูงสุดนี้จะยังมีการวัดการจ่ายพลังงานที่ภาระช่วงต่ำๆเพียง 10% ด้วยซึ่งจะต้องมีประสิทธิภาพได้เกินกว่า 0.9 ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยสำหรับการทำงานในช่วงนี้ สำหรับ PSU ที่ใช้ไฟด้าน AC 220V จึงจะได้การการันตีมาในระดับนี้




แหล่งที่มา http://bit.ly/2scjjw2

ความคิดเห็น