คอมพิวเตอร์ เป็น เครื่องจักร แบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วย ความจำ รูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึด สารสนเทศ ที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่าง ๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บ ข้อมูล ไว้ คำสั่งต่าง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในปี ค.ศ.1982 คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่อง
IBM กำลังจัดงาน IBM Think 2018 ขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยภายในงานจะมีการแสดงนวัตกรรมใหม่ๆ ในคอนเซปส์ 5 ใน 5 ที่หมายถึง 5 สิ่งประดิษฐ์ และเทคโนโลยีจากการวิจัยของ IBM ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในอีก 5 ปี ข้างหน้านี้ และหนึ่งในเทคโนโลยีนั้นคือ การสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
จากภาพที่เห็นด้านบน มันคือคอมพิวเตอร์ขนาด 1 มม. x 1 ม.ม. ซึ่งเล็กกว่าเม็ดเกลือซะอีก โดยเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอย่าง Michigan Micro Mote ในปี 2015 ซึ่งมีขนาด 2 มม. เจ้านี่ก็นับว่าเล็กลงมากว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว และที่น่าสนใจมากก็คือต้นทุนของมันมีราคาไม่ถึง 10 เซ็นต์ (ประมาณ 10 บาท) ด้วยซ้ำ
เจ้าคอมจิ๋วเครื่องนี้มีตัวประมวลผลที่มีทรานซิสเตอร์อยู่กว่า 1 ล้านตัว, หน่วยความจำ SRAM, เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์, หน่วยการสื่อสารที่ใช้ LED และเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงเพื่อการสื่อสารกับโลกภายนอก
IBM อ้างว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้มีพลังของชิป x86 ปี 1990 ซึ่งทำให้มันมีพลังเพียงพอที่จะรันเกมส์ Doom เวอร์ชั่นออริจินอลได้ คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Crypto-anchors Initiative ซึ่งเป็นการทำ Digital Fingerprint ฝังไว้ในผลิตภัณฑ์ ป้องกันการปลอมผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า IBM จะพร้อมแล้วจริงๆ สำหรับการสร้างมาตรฐานให้กับเทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ที่มา : www.theverge.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น